วอทส์แอพพ์
เมื่อเร็วๆ นี้ โรงงานยางรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในคูเวตถูกไฟไหม้และควันก็พลุ่งพล่านอย่างกะทันหัน เหตุการณ์นี้ทำให้ประเด็นการกำจัดยางเสียกลับมาเป็นที่สนใจของสาธารณชนอีกครั้ง
เกิดเหตุเพลิงไหม้ในคูเวต
ขยะยางเรียกว่า "ขยะดำ" ซึ่งมีสารเคมีมากกว่า 150 ชนิด เช่น ยาง โพลีเมอร์ คาร์บอนแบล็ค และสารเติมแต่งปิโตรเลียม หากยางเสียถูกกองรวมกันโดยไม่มีการกำจัดและรีไซเคิล ภายใต้สภาวะที่มีอุณหภูมิและความร้อนสูง ยางมีแนวโน้มที่จะผลิตก๊าซระเหย ซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ผ่านทางทางเดินหายใจ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่จากยางรถยนต์ที่ใช้แล้ว เป็นการยากที่จะดับลง ก๊าซพิษจำนวนมาก เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์ จะถูกปล่อยออกมาในระหว่างกระบวนการเผาไหม้ ซึ่งจะก่อให้เกิดมลพิษในชั้นบรรยากาศ
ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ให้เห็นว่า "ไฟไหม้ยางรถ" ในคูเวตอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทั่วโลก ดังนั้นจากทุกมุมเราจึงต้องค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดเศษยาง เมื่อพิจารณาจากนโยบายและผลลัพธ์ในทางปฏิบัติของประเทศต่างๆ ไพโรไลซิสเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการกำจัดเศษยางซึ่งมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมสูง ถือเป็นทิศทางสำคัญในการบำบัดทรัพยากรยางเสียในอนาคตซึ่งสามารถเปลี่ยนยางเสียจาก "ขยะดำ" ให้เป็น "ทองคำดำ" ได้อย่างแท้จริง
ไพโรไลซิสเป็นกระบวนการทางเคมีที่สลายสารประกอบโมเลกุลสูงให้เป็นสารประกอบโมเลกุลต่ำในสภาพแวดล้อมแบบปิด ไม่ใช้ออกซิเจน และมีอุณหภูมิสูง ด้วยการดำเนินงานหลายชุด เช่น ไพโรไลซิสที่อุณหภูมิสูง การทำความเย็นให้เป็นน้ำมัน และการทำให้ก๊าซไอเสียบริสุทธิ์ ยางเสียจะถูกย่อยสลายเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง คาร์บอนแบล็ก และเหล็กกล้า วัสดุเหล่านี้เป็นวัสดุรีไซเคิลที่มีความร้อนสูง โดยเฉพาะน้ำมันเตาและคาร์บอนแบล็ก ซึ่งมีตลาดกว้างในสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาน้ำมันดิบระหว่างประเทศสูงขึ้นและการขาดแคลนเชื้อเพลิง
โรงงานไพโรไลซิสยางเสีย
การทำไพโรไลซิสของยางเสียมานานกว่าสิบปี เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนี้และมีอุปกรณ์คุณภาพสูงและประสบการณ์อันยาวนาน อุปกรณ์นี้มีข้อดีคือระบบควบคุมอัตโนมัติ PLC การทำงานต่อเนื่อง ความปลอดภัยและการปกป้องสิ่งแวดล้อม ปริมาณน้ำมันที่สูง และคุณภาพน้ำมันที่ดี นอกจากนี้ยังมีต้นแบบให้เยี่ยมชมอีกด้วย หากสนใจ สามารถติดต่อเราได้ตลอดเวลา
ติดต่อเรา
ติดต่อเรา